รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เยือนมหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซี (Guangxi Minzu University) เมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อลงนามความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน

{Recent News}

รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เยือนมหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซี (Guangxi Minzu University) เมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อลงนามความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน

ในวันที่ 21 พ.ค.2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.คณกร สว่างเจริญ รักษาราชการแทนอธิการบดี  พร้อมด้วยคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ประกอบด้วยรองศาสตราจารย์ สมชาย พรหมสุวรรณ ที่ปรึกษาอธิการบดี  ผู้ช่วยศาสตราจารย์  ณัฏฐ์ เดชะปัญญา ผู้ช่วยอธิการบดี อาจารย์ ดร.พรรณนา ศรสงคราม ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กุลสิรินทร์  อภิรัตน์วรเดช ผู้อำนวยการสำนักวิเทศสัมพันธ์และเครือข่ายอาเซียน และรองศาสตราจารย์ ดร.นิรันดร์ สุธีนิรันดร์ ประธานหลักสูตรปริญญาเอกสาขาบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้เดินทางไปลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซี (Guangxi Minzu University) เมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี ซึ่งการไปลงนามความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก ศาสตราจารย์ ดร. Wei  Shizhen  อธิการบดีมหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซี  พร้อมด้วยศาสตราจารย์ ดร. Liao Dongsheng  รองอธิการบดี  ศาสตราจารย์ ดร. Lyu  Junbiao รองอธิการบดี  ศาสตราจารย์ ดร. Gao Xingyu รองอธิการบดี  ศาสตราจารย์ ดร. Huang Weisheng รองคณบดีคณะการจัดการศึกษานานาชาติ  และศาสตราจารย์ ดร. Zhang Yuzhen รองผู้อำนวยการสำนักวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซี

มหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซีเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในมณฑลกว่างซี มีการจัดการเรียนการสอนตามอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของมณฑลกว่างซี ปัจจุบันมีคณะวิชาจำนวน 24 คณะ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในระดับภูมิภาค มีการจัดการเรียนการสอนในหลากหลายสาขาวิชา ทั้งระดับปริญญาตรี   ระดับปริญญาโท  ปริญญาเอก ในหลากหลายสาขาวิชา โดยเฉพาะสาขาที่เกี่ยวข้องกับภาษา วรรณคดีของกลุ่มชาติพันธุ์  มีศูนย์การวิจัยชาติพันธุ์วิทยา  ศูนย์วิจัยหลังปริญญาเอก  เป็นต้น นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยได้เน้นการจัดการศึกษานานาชาติ ตามนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง โดยส่งเสริมให้อาจารย์ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยได้รับโอกาสไปแลกเปลี่ยนในระดับนานาชาติอย่างกว้างขวาง

การไปเยือนครั้งนี้ของคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา นับว่าเป็นการทบทวนความร่วมมือของทั้งสองมหาวิทยาลัยภายใต้การบริหารงานของอธิการบดีท่านใหม่ของทั้งสองมหาวิทยาลัย ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของการไปเยือนในครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีและลงนามความร่วมมือทางวิชาการต่ออายุสัญญาให้มีความต่อเนื่อง โดยฝ่ายรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้กล่าวทบทวนสัมพันธภาพที่ดีและความร่วมมือที่ผ่านมาของทั้งสองมหาวิทยาลัย โดยทั้งสองมหาวิทยาลัยมีกิจกรรมการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนานมากกว่า 18 ปี อาทิ กิจกรรมการแลกเปลี่ยนนักศึกษา หลักสูตรภาษาไทยในรูปแบบ 2 + 2  และหลักสูตรการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศในรูปแบบ 1+3  โดยทางมหาลัยชนชาติกว่างซี ได้ส่งนักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทยมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ในรูปแบบดังกล่าวมาเป็นระยะเวลานานหลายปี จนมีนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาเกือบ 600 คน ในขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาก็ได้ส่งนักศึกษาทั้ง ระยะยาว ระยะสั้น ไปเรียนร่วมกับชนชาติกว่างซีอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ปี

อย่างไรก็ดีการประชุมหารือกันในครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันในการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ 1 + 3 และ 3 + 1 สาขาภาษาไทย สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศและสาขาภาษาจีน และหลักสูตรระยะสั้นของสำนักวิเทศสัมพันธ์และเครือข่ายอาเซียน  ตลอดจนการแลกเปลี่ยนกิจกรรรมด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านการวิจัย และการสนับสนุนอนุเคราะห์อาจารย์ที่ปรึกษาร่วมในระดับบัณฑิตศึกษา  โดยมหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซีเป็นผู้อนุเคราะห์ให้ มบส. ใช้ศักยภาพอาจารย์ของมหาวิทยาลัยมาเป็นที่ปรึกษาร่วมในหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาของ มบส. อนึ่งการเจรจาในครั้งนี้ผู้บริหารทั้งสองฝ่ายมีความเห็นพ้องต้องกันที่จะสนับสนุนผลักดันกิจกรรมตามกรอบความร่วมมือที่ได้ตกลงร่วมกันให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยศาสตราจารย์ ดร. Wei  Shizhen  อธิการบดีท่านใหม่ของมหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซี พร้อมที่จะส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมการแลกเปลี่ยนตามข้อตกลงที่ได้หารือร่วมกันทุกประเด็น และจะสานพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองมหาวิทยาลัยให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปตามสัมพันธภาพที่ดีที่มีร่วมกันมาอย่างยาวนาน

—-

ภาพ/ข่าวโดย : เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์ สำนักวิเทศสัมพันธ์และเครือข่ายอาเซียน