มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และสำนักวิเทศสัมพันธ์และเครือข่ายอาเซียน ร่วมต้อนรับคณะผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยเป่ยปู้กัฟล์ (Beibu Gulf University) เมืองชินโจว (Qinzhou) มณฑลกว่างซี สาธารณรัฐประชาชนจีน

วันที่ 27 มีนาคม 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และสำนักวิเทศสัมพันธ์และเครือข่ายอาเซียน นำโดยรองศาสตราจารย์ ดร.ชลลดา พงศ์พัฒนโยธิน รองอธิการบดีพร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กุลสิรินทร์ อภิรัตน์วรเดช ผู้อำนวยการสำนักวิเทศสัมพันธ์และเครือข่ายอาเซียน อาจารย์ ดร.วนิดา พลอยล้วน รองผู้อำนวยการสำนักวิเทศสัมพันธ์และเครือข่ายอาเซียน และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยศวัจน์ ชีววรนนท์ตรี รองคณบดี ฝ่ายวิชาการและวิจัย คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมร่วมต้อนรับคณะผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยเป่ยปู้กัฟล์ (Beibu Gulf University) เมืองชินโจว มณฑลกว่างซี ณ ห้องปฏิบัติการ Self Access Center อาคาร 11 ชั้น 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

โดยผู้บริหารที่เดินทางมาเยือน 4 ท่าน ได้แก่

  1. ดร. เหยียนซงอิ๋น (闫松银) รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเป่ยปู่กัฟล์
  2. ศาสตราจารย์เซี่ยอี้เจียง (夏义江) รองคณบดีสถาบันวิจัยคลองผิงลู่
  3. ดร. เถียนอู่ลิ่ว (田五六)ผู้ช่วยคณบดีวิทยาลัยการขนส่งทางทะเล
  4. อาจารย์กวอซิ่ง (郭杏)รองผู้อำนวยการสำนักวิเทศสัมพันธ์

มหาวิทยาลัยเป่ยปู้กัลฟ์เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เน้นด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และการบริหารจัดการ ตั้งอยู่ที่เมืองชินโจวซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญในเขตเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้ของมณฑลกว่างซี ครอบคลุมพื้นที่ 1.38 ล้านตารางเมตร โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยมี 19 คณะ แบ่งเป็นระดับปริญญาตรี 54 สาขา ระดับปริญญาโท 10 สาขา จากที่ตั้งซึ่งหันหน้าเข้าหาทะเลจีนใต้และอาเซียน มหาวิทยาลัยเป่ยปู้กัลฟ์จึงมุ่งเน้นและเร่งรัดการสร้างความร่วมมือในหลักสูตรนานาชาติกับสถาบันการศึกษาในอาเซียน โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ซึ่งหลักสูตรที่มีความโดดเด่นจะเป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับทางทะเล เช่น สาขาวิทยาศาสตร์ทางทะเล สาขาวิศวกรรมเครื่องกลเรือ สาขาเทคโนโลยีทางทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเป่ยปู้กัลฟ์ยังได้เปิดวิชาภาษาไทยเป็นวิชาในหมวดศึกษาทั่วไปเพื่อเป็นทางเลือกให้นักศึกษาจีนเลือกศึกษาเพิ่มเติมได้นอกจากภาษาอังกฤษ เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักศึกษาจีนสามารถเดินทางมาศึกษาต่อที่ประเทศไทยในระดับที่สูงขึ้นไปอีกด้วย

การมาเยือนในครั้งนี้ เพื่อประชุมหารือแนวทางในการยกระดับพัฒนาการแลกเปลี่ยนกิจกรรมทางวิชาการร่วมกันให้มีความเข้มข้นมากขึ้น  ทั้งในด้านการจัดการศึกษาในระดับปริญญาตรี อาทิ รูปแบบ 2+2 หรือหลักสูตรวิศวกรรมในรูปแบบ 3+1 และการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ตลอดจนหลักสูตรระยะสั้น เช่น “โครงการเพิ่มประสบการณ์ชีวิตสร้างมิตรภาพ เรียนร่วมภาษาและวัฒนธรรม” ในต่างประเทศของสำนักวิเทศฯ อีกทั้งยังเป็นการขยายเครือข่ายความมือทางวิชาการในระดับนานาชาติเพื่อยกระดับการจัดการศึกษาให้มีความเป็นสากล และผสานสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างสองสถาบันอีกด้วย

—-

ภาพ/ข่าวโดย : เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์ สำนักวิเทศสัมพันธ์และเครือข่ายอาเซียน